การออกแบบบ้านให้ลดการใช้พลังงาน

[Joe524]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแดด โดยที่จะจะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่พอเหมาะพอควร เพื่อลดอุที่ภูเขามิข้างนอกใกล้บริเวณบ้านแล้วก็ ปกป้องลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากเกินไป โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกและก็ ทิศตะวันตก



2. ควรจะเลือกประเภทต้นไม้ที่สมควรสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามแคว้นดังเช่นว่า ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลและรักษา เนื่องจากต้นไม้เหล่านี้มีความเคยชินกับสภาพภูมิประเทศ รวมทั้งลักษณะอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมรอบๆรอบๆบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกหญ้า จัดแต่งสวน จัดทำน้ำตกเลียนแบบ ฯลฯ

4. กลบดินบริเวณรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นแล้วก็ฝาผนังบางส่วนต่ำลงยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ แล้วก็ปลูกไม้พุ่มบริเวณฝาผนังบ้าน



5. ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด บางทีอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และลดความแรงของแสงอาทิตย์ที่ ส่องผิวอาคาร



6. ทำรางน้ำและก็ท่อระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆข้างในบ้านให้ สมควร เพื่อคุ้มครองความชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางทีอาจจะทำท่อที่มีไว้ระบายน้ำที่ได้จาก การซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าเกิดอยากทำที่หยุดรถยนต์ ควรทำที่จอดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและก็ฝาผนัง โดยความดกของฉนวนที่ใช้จำต้อง ขึ้นอยู่กับภาระทำความเย็น แต่ส่วนใหญ่ใช้ฉนวนที่มีความหนาราว 2-3 นิ้ว (50-75 มม.) ฉนวนสำหรับหลังคารวมทั้งผนังมีหลายแบบ อย่างเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีผนังด้านนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้อุปกรณ์ที่มีผิวมันและกันความชุ่มชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนเจริญ

10. สำหรับผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรจะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานพลิกซึ่งสามารถควบคุมจำนวนลมได้ดีกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างจำพวกบานเลื่อน

11.จัดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่ต้องแค่นั้น โดยให้เพียงพอสำหรับการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ แล้วก็ควรเลี่ยงการตำหนิดตั้งด้านทิศตะวันออกรวมทั้งตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวระดับเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือแล้วก็ทิศใต้ เพราะเหตุว่าสามารถบังแสงแดดในตอนเที่ยงตรงและก็ตอน บ่าย ส่วนกันสาดแนวตั้งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกแล้วก็ทิศตะวันตก



13. ติดตั้งผ้าม่านหรือมู่ลี่บริเวณหน้าต่างกระจก เพื่อปกป้องความร้อนจากแสงสว่าง อาทิตย์เข้าข้างในตัวบ้าน ส่วนการต่อว่าดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้ว่าจะคุ้มครองปกป้อง ความร้อนจากแดดได้ดีมากว่า แต่ค่าครองชีพสูงกว่าจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่รอบๆชั้นสองเหนือ บริเวณที่จอดรถหรือระเบียง ควรจะมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองการนำความร้อนจากข้างนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. ติดตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ด้านนอก

16. ทำระเบียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกแล้วก็ทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งทานอาหารว่างหรือใช้ประกอบอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. อุดรอยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องจัดตั้งประทีป ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่เตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองป้องกันความ ร้อนจากด้านนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. ทิศเหนืออยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองป้องกันความ ร้อนและก็ความชื้นจากข้างนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในเรื่องที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้และก็ชั้นที่เอาไว้วางของให้เหมาะสม ไม่บังลม ไม่ขวางกั้นการระบาย อากาศ และไม่บังแสงสว่าง

20. จัดวางโต๊ะเขียนหนังสือให้เบือนหน้าไปในฝาผนังด้านที่รับแสงสว่างธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลทำความสะอาด พรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เปียกชื้น เพื่อลดภาระหน้าที่ทำความเย็นเนื่องจากความร้อนแฝง



22. แบ่งห้องใช้สอยโดยนึกถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ตอนเวลาเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยแทบตลอดทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เนื่องจากจะเย็นสบายที่สุด ดังเช่นว่า ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ ฯลฯ

23. ควรจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ และจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าแล้วก็ออกมาจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์มากที่สุด แต่ถ้าเกิดไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจะจัดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทะนุบำรุงสะดวก รวมทั้งใน ที่ๆไม่ส่งเสียงรบกวนเข้ามาข้างในห้อง



25. ควรจะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ข้างในห้องปรับอากาศ ให้เหมาะสม คือ ไม่ควรโดนแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะจะทำให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าผิดพลาด และก็ควรจะติดตั้งในรอบๆที่มีความสามารถในการอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและก็ และสบายต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามต้องการ

26. ควรจัดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในรอบๆที่ไม่ปรับอากาศรวมทั้งเปิดโล่ง ตัวอย่างเช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนและก็ลดความชุ่มชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ แต่ถ้าต้องติดตั้งในห้องปิด ควรต้องติด ตั้งพัดลมสำหรับระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองการสั่งสมความร้อนแล้วก็ความชุ่มชื้นภายในห้อง



27. พินิจพิเคราะห์ทำครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ว่าถ้าเกิดหลีกเลี่ยงไม่ได้ครัวที่อยู่ ด้านในตัวบ้านควรมีการระบายความร้อนที่ดี เนื่องจากว่าห้องครัวมักมี เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์หลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น เตาอบ เตาหุงต้ม กาที่มีไว้สำหรับต้มน้ำร้อน ตู้แช่เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. จัดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำงานหุงต้มแล้วก็อากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากด้านนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์และก็เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์สมรรถนะสูง นอกจากจะมัธยัสถ์ พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย เช่น ใช้ตู้เย็นความสามารถสูง ใช้หลอดไฟคุณภาพสูง เป็นต้น

[Chanapot]

ดันๆ

[luktan1479]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[dsmol19]

 ดันกระทู้

[Naprapats]

ดันๆ

[Naprapats]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Joe524]

ดันๆ

[Jenny937]

ดันๆ

[Prichas]

ดันๆ

[Chanapot]

ดันๆ

[Jenny937]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Chigaru]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Chigaru]

ดันๆ

[Beer625]

 ดันกระทู้