ยางรถไฟฟ้า นวัตกรรมใหม่ที่คนขับรถ EV ต้องรู้จัก

[Prichas]

รู้จักยาง HL (High Load) นวัตกรรมยางสำหรับรถ EV ที่คนขับต้องรู้
ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริดกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด สิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ควรรู้คือ "น้ำหนักตัวรถ" ที่เพิ่มขึ้นจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลให้ยางเสื่อมสภาพเร็วหรือเกิดปัญหายางแตกกลางทาง เพื่อแก้ปัญหานี้ ยาง HL (High Load) จึงถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ประเภทนี้

ยาง HL (High Load) คืออะไร?
ยาง HL เป็นนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากยาง XL (Extra Load) เพื่อตอบโจทย์ปัญหาน้ำหนักรถ EV และไฮบริดที่มากกว่ายานยนต์ทั่วไป โดยยาง HL สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาง ซึ่งช่วยให้รถยนต์คงสมรรถนะการวิ่งได้ดีโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่และระยะทางการขับขี่

เปรียบเทียบยาง HL, XL และ SL
จากขนาดมาตรฐาน 245/40 R19 น้ำหนักที่รองรับสูงสุดของแต่ละชนิดมีดังนี้
SL (Standard Load) รองรับน้ำหนักสูงสุด 670 กก. (ดัชนี 94)
XL (Extra Load) รองรับน้ำหนักสูงสุด 750 กก. (ดัชนี 98)
HL (High Load) รองรับน้ำหนักสูงสุด 825 กก. (ดัชนี 101)

วิธีดูแลยางรถ EV
1.ตรวจสอบลมยาง หมั่นเช็กลมยางเป็นประจำตามคู่มือรถ โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 32-50 psi และเปลี่ยนยางเมื่อใช้งานครบ 2 ปี หรือ 50,000 กม.
2.ตรวจสภาพยาง ตรวจสอบการสึกหรออย่างสม่ำเสมอ หากพบความเสียหายให้รีบแก้ไขทันที
3.ตั้งศูนย์ล้อและถ่วงล้อ การตั้งศูนย์ล้อให้ถูกต้องช่วยยืดอายุการใช้งานยางและเพิ่มความปลอดภัย

หากรถ EV ของคุณมาพร้อมยาง HL จากโรงงาน ควรเลือกเปลี่ยนเฉพาะยาง HL เท่านั้น เพื่อรองรับน้ำหนักแบตเตอรี่และสมรรถนะเฉพาะของรถไฟฟ้า เช่น การลดแรงต้านการหมุนและเสียงรบกวน รวมถึงการตอบสนองต่อการเบรกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยาง HL ไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ แต่ยังช่วยเสริมสมรรถนะการประหยัดพลังงานให้รถ EV อย่างยั่งยืน เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ใส่ใจทั้งความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม!

Tags : ยางรถไฟฟ้า