เที่ยวบรัสเซลส์ เดินเที่ยวกันแบบชิลล์ๆที่เมืองหลวงของเบลเยียม
คนใดกันแน่ที่กำลังมองหาทริปยุโรปแบบชิลล์ๆท่องเที่ยวสบายๆได้บรรยากาศที่อีกทั้งคลาสสิกรวมทั้งความสนุกสนานร่าเริงแบบเรียบง่าย บรัสเซลส์ (Brussels) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยมเป็นเลิศในเป้าหมายที่น่าแวะไปเยี่ยมสักหนึ่งครั้ง ด้วยบรรยากาศที่ผสมระหว่างความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมยุโรป กับไลฟ์สไตล์ชาวเมืองที่เรียบง่ายแต่ว่าน่าดึงดูด ทำให้บรัสเซลส์ไม่ใช่แค่ศูนย์กลางของเมืองยุโรปแค่นั้น แต่ว่ายังไปเต็มด้วยช็อกโกแลตหอมหวาน เบียร์สดแคว้น คาเฟ่น่ารักน่าเอ็นดูๆและก็แลนด์มาร์คสุดวิจิตรตระการตาที่เดินดูได้สบายๆตลอดทั้งวัน ฉะนั้นคนไหนกันแน่ที่ต้องการออกทริปแบบสบายๆลองเที่ยวบรัสเซลส์สักหนึ่งครั้งมองสิ บอกเลยว่าคุณจำเป็นต้องดีอกดีใจที่ได้มาตรงนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/09--01.jpg) (https://funnytripholiday.com/blog/travel-to-brussels/)
เดินเที่ยวบรัสเซลส์ เมืองดั้งเดิมทางประวัติศาสตร์ ศูนย์กลางสหภาพยุโรป
บรัสเซลส์ (Brussels) เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม เป็นศูนย์กลางสำคัญอีกทั้งในทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และก็การบ้านการเมืองสุดยอด เนื่องจากตรงนี้เป็นที่ตั้งของอีกทั้งสหภาพยุโรป (EU) รวมทั้งหน่วยงานนาโต้ (NATO) จนได้รับสมญานามว่าเป็น "เมืองหลวงที่ยุโรป" ถึงแม้ขนาดของเมืองบรัสเซลส์จะมิได้ใหญ่มโหฬารราวกับเมืองหลวงอื่นๆแต่ว่าก็เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ รวมทั้งบรรยากาศสุดครื้นครึกที่ไปเที่ยวได้ไม่น่าเบื่อ นักเดินทางผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมักเลือกแวะเที่ยวบรัสเซลส์ (https://funnytripholiday.com/blog/travel-to-brussels/)แบบ 1 Day Trip ก่อนเริ่มเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ
โดยบรัสเซลส์เริ่มจัดตั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ 10 รวมทั้งเติบโตขึ้นเป็นศูนย์กลางกิจการค้าแล้วก็ศิลป์ในสมัยฟลานเดอร์ส ทั้งยังได้รับอิทธิพลจากมากมายอารยธรรมในตอนที่อยู่ใต้การปกครองของประเทศสเปน ออสเตรีย แล้วก็ประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นเมืองที่ประสมประสานความเก่าแก่และก็ใหม่ได้อย่างพอดีในทุกมุมของเมืองจนถึงทุกวันนี้
แลนด์มาร์กที่เที่ยวบรัสเซลส์ สถานที่ที่ได้รับความนิยมที่ไม่สมควรพลาด
แน่ๆว่าบรัสเซลส์เป็นเมืองหลวงที่มิได้ใหญ่อะไรมากมาย กลับมีแลนด์มาร์กมากไม่น้อยเลยทีเดียวที่คนคิดถึงไม่ว่าจะเป็น อโตภรรยาม สถาปัตยกรรมรูปร่างประหลาดตาที่ถูกสร้งขึ้นในปี 1958 แม้กระนั้นตรงนี้ไม่ใช่ที่เดียวที่ไม่สมควรพลาดถ้าหากมายังเมืองนี้แค่นั้น แม้กระนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบรัสเซลส์ฯลฯที่พวกเราต้องการเสนอแนะให้ท่านได้ทดลองไปสักหนึ่งครั้ง
สี่เหลี่ยมจัตุรัสกรองด์ปลาช (Grand Place)
สี่เหลี่ยมจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ที่เป็นที่รู้จักไปทั้งโลก ด้วยความสวยสดงดงามของตึกรอบๆที่ผลิตขึ้นมาตั้งแต่ยุคกลาง ทั้งยังสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก โกธิก รวมทั้งนีโอโกธิก ทำให้ตรงนี้ได้รับการชื่นชมให้เป็นเลิศในสี่เหลี่ยมด้านเท่าที่งามที่สุดในยุโรป นอกเหนือจากที่จะเป็นสถานที่ถ่ายภาพยอดฮิตแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางของเทศกาลสำคัญอย่างงานประพรมดอกไม้ที่จัดขึ้นทุกๆ2 ปี
ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussel Town Hall)
อาคารตึกดั้งเดิมอีกหนึ่งแห่งที่ตั้งอยู่ในเขตสี่เหลี่ยมจัตุรัสกรองด์ปลาช โดยมีหอสังเกตการณ์สูงเด่นเป็นเอกลักษณ์สะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกผสมบาโรก ตัวตึกทำขึ้นมาตั้งแต่ตอนศตวรรษที่ 15 และก็เคยผ่านการบูรณะมาหลายสมัยหลายยุค ข้างในยังเคยถูกใช้เป็นที่ทำการเทศบาลเมือง และก็ในตอนนี้ได้เปิดให้นักเดินทางเข้าชมความสวยของสถาปัตยกรรม พร้อมได้ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ของบรัสเซลส์ผ่านงานศิลปอีกด้วย
สวนจูบิลี่ (Jubilee Park)
สวนสาธารณะขนาดใหญ่แกนกลางเมืองที่เปรียบได้ดั่ง "ปอด" ของบรัสเซลส์ ด้วยพื้นที่กว้างกว่า 74 เอเคอร์ เต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น ลานกิจกรรม รวมทั้งประติมากรรมที่โล่งแจ้ง ตรงนี้ยังเป็นที่ตั้งของประตูชัย Cinquantenaire และก็พิพิธภัณฑสถานสำคัญอีกหลายๆที่ ซึ่งแต่เดิมสวนที่นี้ถูกผลิตขึ้นในช่องทางครบรอบ 50 ปี การประกาศอิสระของประเทศเบลเยี่ยม
เมาท์ เดส อาร์ต (Mont des Arts)
พื้นที่ศิลป์บนเนินที่แปลงเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมร่วมยุคแกนกลางเมือง รอบๆนี้เคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่น ก่อนที่จะถูกปรับปรุงโดยพระผู้เป็นเจ้าเลออปอลที่ 2 ให้เปลี่ยนเป็นแหล่งรวมศิลป์ ด้วยการออกแบบแปลนเมืองใหม่ทั้งหมดทั้งปวง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถาน มึงลเลอรี หอสมุด และก็จุดสำหรับชมวิวเมืองที่งามที่สุดในบรัสเซลส์ เหมาะกับคู่รักศิลป์ แล้วก็นักเดินทางที่อยากเห็นทิวทัศน์เมืองแบบทั้งสิ้น
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลแล้วก็เซนต์ฉันมองลา
หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดของเมืองบรัสเซลส์ มหาวิหารที่นี้ผลิตขึ้นตั้งแต่ตอนศตวรรษที่ 13 ในสไตล์โกธิก และก็ตอนหลังมีการศึกษาค้นพบว่าภายใต้พื้นที่โบสถ์ยังมีซากโบราณจากศตวรรษที่ 11 แอบซ่อนอยู่ ซึ่งด้านในวิหารถูกตกแต่งอย่างงดงามด้วยหน้าต่างกระจกหลายสี เสาหินประติมากรรมอัครสาวก และก็ระฆัง 49 ใบศูนย์รวมกันเป็นค้างริลใหญ่ ที่เล่นเพลงเสียงดนตรีได้อย่างน่าประทับใจ
พิพิธภัณฑสถานเมืองบรัสเซลส์ (Brussel City Museum)
เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ในตึกประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า "Maison du Roi" ซึ่งมีแบบอย่างสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิก ตัวพิพิธภัณฑสถานจัดโชว์เรื่องราวต่างๆของเมืองบรัสเซลส์ตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งตอนนี้ ผ่านวัตถุโบราณมากยิ่งกว่า 7,000 ชิ้น ทั้งยังภาพวาด ประติมากรรม เสื้อผ้า สิ่งทอ รวมทั้งของสะสมอีกเพียบเลย สถานที่นี้บางทีก็อาจจะเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการรู้เรื่องความเป็นมาของบรัสเซลส์ในระดับหนึ่ง แต่ว่าก็สามารถเดินเล่นดูแบบเพลินใจได้ด้วยเช่นเดียวกัน
อะโตภรรยาม (Atomium)
แลนด์มาร์กเครื่องหมายของบรัสเซลส์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ตัวตึกถูกผลิตขึ้นในปี 1958 สำหรับงาน Expo World Fair และก็ดีไซน์ให้เป็นส่วนประกอบทรงอะจากที่ประกอบไปด้วยลูกกลม 9 ลูก เชื่อมกันด้วยท่อโลหะ ซึ่งข้างในสามารถเข้าชมรวมทั้งเดินไปยังลูกกลมอย่างอื่นได้ด้วย โดยด้านในมีทั้งยังนิทรรศการถาวรที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และก็วัฒนธรรม รวมถึงทิวทัศน์แบบ 360 องศาของเมืองจากจุดสำหรับชมวิวข้างบน พูดได้ว่าตรงนี้มีทั้งยังงานศิลปะ สถาปัตยกรรม รวมทั้งศูนย์ศึกษาในที่เดียวเลย
ผลสรุป
เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยมอย่าง "บรัสเซลส์" แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆที่ดูไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางหลักของคนใดกันแน่ แม้กระนั้นก็เป็นจุดมุ่งหมายที่เหมาะกับคนที่ต้องการมาท่องเที่ยวแบบชิลล์ๆท่ามกลางบรรยากาศแบบสบายๆด้วยเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย และก็สถานที่เที่ยวสำคัญอีกหลายที่ ซึ่งการได้มาท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ ที่เป็นศูนย์กลางด้านการเมืองของสหภาพยุโรป ก็เลยเป็นอะไรที่น่าดึงดูดสำหรับคนที่รู้สึกชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลป์ รวมทั้งวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์