⚡🌏📌การก่อสร้างองค์ประกอบเบื้องต้น ดังเช่น ถนน สะพาน หรือฐานรากของตึก จำต้องมีการสำรวจคุณภาพของดินที่ใช้สำหรับการกลบเพื่อให้แน่ใจว่ามีความแข็งแรงและก็มั่นคงพอที่จะรองรับน้ำหนักของโครงสร้างได้ การทดสอบ Field Density Test ยอดเยี่ยมในวิธีที่สำคัญและเป็นที่นิยมสำหรับการตรวจสอบความหนาแน่นของดินในสนาม ซึ่งเนื้อหานี้จะชี้แจงถึงจุดสำคัญของการทดสอบ Field Density Test และกรรมวิธีทดสอบที่ถูกต้อง
(https://i0.wp.com/www.exesoiltest.com/wp-content/uploads/2021/06/FDT-3.jpg)
🛒🦖🦖เพราะเหตุไรต้องทดลอง Field Density Test📢🥇⚡🛒✅✨1. ความมั่นคงของส่วนประกอบ
การทดลอง Field Density Test ช่วยให้วิศวกรสามารถประเมินความหนาแน่นของดินที่ใช้สำหรับเพื่อการกลบพื้นที่ก่อสร้างได้อย่างแม่นยำ ดินที่มีความหนาแน่นพอเพียงจะช่วยให้โครงสร้างมีความยั่งยืนรวมทั้งสามารถรองรับน้ำหนักเจริญ ลดการเสี่ยงในการยุบหรือแตกร้าวขององค์ประกอบ
✅🥇📌2. การควบคุมคุณภาพสำหรับการก่อสร้าง
การทดสอบ Field Density Test เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมคุณภาพในการก่อสร้าง ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าดินที่ใช้สำหรับในการกลบมีคุณภาพตามมาตรฐานที่ระบุ และสามารถรองรับการใช้แรงงานในระยะยาวได้ การตรวจทานนี้ยังช่วยคุ้มครองปกป้องปัญหาที่บางทีอาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังเช่นว่า การทรุดตัวของดินหรือการเสียหายของส่วนประกอบ
🥇🛒🎯3. การประกันความปลอดภัยของโครงงาน
ความปลอดภัยเป็นเรื่องจำเป็นที่สุดในการก่อสร้าง การทดลอง Field Density Test ช่วยทำให้เชื่อมั่นได้ว่าพื้นดินที่ใช้ในลัษณะของการก่อสร้างมีความแข็งแรงพอที่จะรองรับองค์ประกอบรวมทั้งการใช้งานจริง การทดลองนี้ช่วยลดการเสี่ยงสำหรับในการเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางส่วนประกอบที่บางทีอาจเกิดขึ้น
Quoteบริการ รับเจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Boring Test บริการ เจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil (https://line.me/ti/p/%40exesoil)
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
✨🌏⚡กระบวนการทดลอง Field Density Test📢✨🛒การทดสอบ Field Density Test มีหลายแนวทางที่นิยมใช้ในแวดวงก่อสร้าง ซึ่งแต่ละวิธีมีส่วนดีส่วนเสียต่างกันไป วิธีที่นิยมใช้ได้แก่:
🦖📢✅1. Sand Cone Method
เป็นกรรมวิธีการที่ใช้ทรายเพื่อเติมลงไปในหลุมที่ขุดขึ้นในดิน แล้วต่อจากนั้นวัดปริมาณทรายที่ใช้เพื่อเพิ่มหลุม การประเมินจำนวนนี้จะช่วยให้ทราบถึงความหนาแน่นของดินที่ถูกถมลง แนวทางนี้มีขั้นตอนดังต่อไปนี้:
🥇1.1 ขุดหลุมในดินที่อยากได้ทดลองโดยมีขนาดแล้วก็ความลึกตามกำหนด
👉1.2 เพิ่มเติมทรายลงในหลุมและก็วัดปริมาณทรายที่ใช้เพื่อสำหรับการเพิ่มหลุม
📌1.3 คำนวณความหนาแน่นของดินจากปริมาณทรายที่ใช้
🎯🛒⚡2. Nuclear Density Gauge Method
เป็นวิธีที่ใช้เครื่องมือวัดรังสีสำหรับเพื่อการวัดความหนาแน่นของดิน เครื่องไม้เครื่องมือนี้สามารถให้ผลการทดสอบได้อย่างเร็วและถูกต้อง แนวทางลักษณะนี้มีขั้นตอนดังนี้:
📌2.1 จัดเตรียมพื้นที่ทดลองและจัดตั้งเครื่องไม้เครื่องมือ Nuclear Density Gauge
🌏2.2 ส่งรังสีเข้าไปในดินและก็วัดผู้กระทำระจายของรังสีที่สะท้อนกลับมา
✅2.3 วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับเพื่อหาค่าความหนาแน่นของดิน
✨🎯✅3. Rubber Balloon Method
เป็นวิธีที่ใช้ลูกโป่งยางในการประเมินจำนวนดินที่ถูกขุดออกมา แนวทางแบบนี้เหมาะสำหรับการทดลองในพื้นที่ที่ไม่สามารถที่จะใช้ทรายหรืออุปกรณ์ที่สำหรับใช้ในการวัดรังสีได้ แนวทางลักษณะนี้มีขั้นตอนดังนี้:
✅3.1 ขุดหลุมในดินที่ต้องการทดสอบโดยมีขนาดแล้วก็ความลึกตามที่ได้มีการกำหนด
⚡3.2 ใส่ลูกโป่งยางลงในหลุมรวมทั้งเพิ่มเติมน้ำเข้าไปในลูกโป่ง
👉3.3 วัดปริมาณน้ำที่ใช้สำหรับในการเติมลูกโป่งและคำนวณความหนาแน่นของดิน
🥇📌🥇ผลสรุป🌏📢🛒การทดลอง Field Density Test เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการตรวจทานความหนาแน่นของดินในสนาม ช่วยทำให้วิศวกรและผู้รับเหมาก่อสร้างได้รับข้อมูลที่แม่นเกี่ยวกับคุณภาพของดินที่ใช้เพื่อการก่อสร้าง การทดลองนี้ช่วยประกันความยั่งยืนแล้วก็ความปลอดภัยของโครงสร้างที่ทำขึ้น การเลือกใช้กรรมวิธีการทดสอบที่เหมาะสมจะช่วยทำให้การก่อสร้างดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว
Tags :
ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนาม ราคา (https://medium.com/@ktset1779/field-density-test-%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-e15f65ecbbbd)