โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง จัดเป็นโรคเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และมีลักษณะเฉพาะคืออาการสั่น อาการแข็งเกร็ง การเคลื่อนไหวช้า และความยากลำบากในการทรงตัวและการประสานงาน
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรคพาร์กินสัน แต่เชื่อกันว่าเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมรวมกัน ผลการศึกษาพบว่าการกลายพันธุ์ของยีนบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ อย่างไรก็ตาม กรณีส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งหมายความว่าเกิดขึ้นโดยไม่มีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมใดๆ
อาการของโรคพาร์กินสันมักค่อยๆ เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อาการแรกสุดอาจรวมถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยหรืออาการตึงในแขนขาข้างหนึ่ง ซึ่งอาจไม่มีใครสังเกตได้ในตอนแรก เมื่อโรคดำเนินไป อาการเหล่านี้จะเด่นชัดมากขึ้นและอาจส่งผลต่อร่างกายทั้งสองข้างได้ อาการอื่นๆ อาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในการพูดและการเขียน การกลืนลำบาก การแสดงออกทางสีหน้าลดลง และท่าทางไม่มั่นคง
การวินิจฉัยโรคพาร์กินสันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากไม่มีการทดสอบที่เฉพาะเจาะจง การซักประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกายอย่างละเอียดมักเป็นขั้นตอนแรกในการวินิจฉัย แพทย์อาจทำการทดสอบหลายอย่างเพื่อแยกแยะอาการอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายคลึงกัน การทดสอบเหล่านี้อาจรวมถึงการตรวจเลือด การสแกนภาพสมอง และการตรวจระบบประสาท
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคพาร์กินสัน การรักษาเน้นที่การจัดการอาการและปรับปรุงคุณภาพชีวิต ยาต่างๆ เช่น levodopa, dopamine agonists และ MAO-B inhibitors สามารถช่วยบรรเทาอาการของการเคลื่อนไหวโดยการเพิ่มระดับ dopamine ในสมอง อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเหล่านี้ในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ดายสกิน (การเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ) หรือการสึกหรอ (ความผันผวนในการตอบสนองต่อยา) การรับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
นอกจากการใช้ยาแล้ว กายภาพบำบัดยังมีบทบาทสำคัญในการจัดการโรคพาร์กินสันอีกด้วย สามารถช่วยปรับปรุงความสมดุล ความยืดหยุ่น และความแข็งแกร่ง รวมถึงลดอาการสั่นและความแข็งแกร่ง กิจกรรมบำบัดอาจเป็นประโยชน์ในการสอนผู้ป่วยถึงวิธีปรับงานประจำวันให้เข้ากับสภาพของตนเองและรักษาความเป็นอิสระ
การออกกำลังกายยังพบว่าส่งผลดีต่อโรคพาร์กินสันอีกด้วย การศึกษาพบว่าการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถชะลอการลุกลามของโรค กิจกรรมต่างๆ การออกกำลังกายที่เหมาะสมควรได้รับการแนะนำจากทางแพทย์
อีกแง่มุมหนึ่งของการจัดการโรคพาร์กินสันคือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การนอนหลับที่เพียงพอ และเทคนิคการจัดการความเครียด ล้วนส่งผลต่อความเป็นอยู่โดยรวมและอาจช่วยบรรเทาอาการได้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ #พาร์กินสัน #อาการพาร์กินสัน *การรักษาทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ
-----
อาหารเสริม BLP Balance P ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
น้ำมันถั่วดาวอินคา, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันงาดำ, น้ำมันมะกอก, น้ำมันกระเทียม, น้ำมันงาขี้ม่อน, ผงโคเอนไซม์ คิวเท็น
รายละเอียดเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม Balance P BLP
BLP DIETARY SUPPLEMENT
เลขที่อย. 13-1-07458-5-0267
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บีแอลพี
BLP Balance P
1กระปุก (30แคปซูล)
ปกติ 1,290 บาท ราคาพิเศษ 990 บาท
*โปรโมชั่นพิเศษ 2 กระปุก แถม 1 กระปุก เพียง 1,800 บาท
*ส่งฟรีมีบริการเก็บเงินปลายทาง
**สอบถามปรึกษาก่อนสั่งซื้อเพื่อแนะนำ LINE: @balances
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรคพาร์กินสัน แต่เชื่อกันว่าเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมรวมกัน ผลการศึกษาพบว่าการกลายพันธุ์ของยีนบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ อย่างไรก็ตาม กรณีส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งหมายความว่าเกิดขึ้นโดยไม่มีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมใดๆ
อาการของโรคพาร์กินสันมักค่อยๆ เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อาการแรกสุดอาจรวมถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยหรืออาการตึงในแขนขาข้างหนึ่ง ซึ่งอาจไม่มีใครสังเกตได้ในตอนแรก เมื่อโรคดำเนินไป อาการเหล่านี้จะเด่นชัดมากขึ้นและอาจส่งผลต่อร่างกายทั้งสองข้างได้ อาการอื่นๆ อาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในการพูดและการเขียน การกลืนลำบาก การแสดงออกทางสีหน้าลดลง และท่าทางไม่มั่นคง
การวินิจฉัยโรคพาร์กินสันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากไม่มีการทดสอบที่เฉพาะเจาะจง การซักประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกายอย่างละเอียดมักเป็นขั้นตอนแรกในการวินิจฉัย แพทย์อาจทำการทดสอบหลายอย่างเพื่อแยกแยะอาการอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายคลึงกัน การทดสอบเหล่านี้อาจรวมถึงการตรวจเลือด การสแกนภาพสมอง และการตรวจระบบประสาท
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคพาร์กินสัน การรักษาเน้นที่การจัดการอาการและปรับปรุงคุณภาพชีวิต ยาต่างๆ เช่น levodopa, dopamine agonists และ MAO-B inhibitors สามารถช่วยบรรเทาอาการของการเคลื่อนไหวโดยการเพิ่มระดับ dopamine ในสมอง อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเหล่านี้ในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ดายสกิน (การเคลื่อนไหวโดยไม่สมัครใจ) หรือการสึกหรอ (ความผันผวนในการตอบสนองต่อยา) การรับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
นอกจากการใช้ยาแล้ว กายภาพบำบัดยังมีบทบาทสำคัญในการจัดการโรคพาร์กินสันอีกด้วย สามารถช่วยปรับปรุงความสมดุล ความยืดหยุ่น และความแข็งแกร่ง รวมถึงลดอาการสั่นและความแข็งแกร่ง กิจกรรมบำบัดอาจเป็นประโยชน์ในการสอนผู้ป่วยถึงวิธีปรับงานประจำวันให้เข้ากับสภาพของตนเองและรักษาความเป็นอิสระ
การออกกำลังกายยังพบว่าส่งผลดีต่อโรคพาร์กินสันอีกด้วย การศึกษาพบว่าการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถชะลอการลุกลามของโรค กิจกรรมต่างๆ การออกกำลังกายที่เหมาะสมควรได้รับการแนะนำจากทางแพทย์
อีกแง่มุมหนึ่งของการจัดการโรคพาร์กินสันคือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การนอนหลับที่เพียงพอ และเทคนิคการจัดการความเครียด ล้วนส่งผลต่อความเป็นอยู่โดยรวมและอาจช่วยบรรเทาอาการได้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ #พาร์กินสัน #อาการพาร์กินสัน *การรักษาทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ
-----
อาหารเสริม BLP Balance P ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
น้ำมันถั่วดาวอินคา, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันงาดำ, น้ำมันมะกอก, น้ำมันกระเทียม, น้ำมันงาขี้ม่อน, ผงโคเอนไซม์ คิวเท็น
รายละเอียดเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม Balance P BLP
BLP DIETARY SUPPLEMENT
เลขที่อย. 13-1-07458-5-0267
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บีแอลพี
BLP Balance P
1กระปุก (30แคปซูล)
ปกติ 1,290 บาท ราคาพิเศษ 990 บาท
*โปรโมชั่นพิเศษ 2 กระปุก แถม 1 กระปุก เพียง 1,800 บาท
*ส่งฟรีมีบริการเก็บเงินปลายทาง
**สอบถามปรึกษาก่อนสั่งซื้อเพื่อแนะนำ LINE: @balances