• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นทำไม ? รักษาได้เช่นไร ?

Started by Panitsupa, January 06, 2023, 07:39:03 AM

Previous topic - Next topic

Panitsupa

ตับมีปัญหา ต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เนื่องจากถ้าปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และก็มะเร็งตับได้เหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อเสียง กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าเกิดคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และควรจะดูแลบำรุงยังไง..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (เก็บกักสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) รวมทั้งยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะเอาไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำพูดที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสภาพร่างกาย ซ่อมบำรุงส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ตัวอย่างเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารรวมทั้งเกลือแร่เอาไว้ภายในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารจำพวกไขมัน และก็ถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินรวมทั้งเกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป ของกินและยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในรูปแบบฉี่ หรือขับถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุอีกทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนโดยมากเกิดการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมทำร้ายตับเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความเครียด
4.ชอบนอนมืดค่ำ ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารยามเช้า
9.ชอบทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
10.ทำงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.ร่วมเพศโดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันซึ่งเราบางทีก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ได้แก่ มีลักษณะอาการง่าย อ่อนเพลีย , มีปัญหาในการนอน , ท้องเฟ้อเป็นประจำ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการของกินน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นถ้าเกิดคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่สนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกทีความน่ากลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยด้านทฤษฎีถ้าเกิดเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ว่าไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเพิกเฉยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะว่าถ้าเกิดตับอักเสบบ่อยๆกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง.. สิ่งจำเป็นที่สุดคือ การใส่ใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเยอะขึ้นเรื่อยๆ
(1) ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงของหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและรสชาติแทนน้ำตาลและก็ผงชูรส
ทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/อาทิตย์)
ขณะทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับสิ่งเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้น้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นแม้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้าเกิดรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำได้ยาก ลองมองเทคนิคน่ารู้ ที่สามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องสำคัญ" อาหารที่เรารับเข้าไปในทุกวันก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. และนี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามตลาดทั่วๆไป เปิดตู้แช่เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับเพื่อการลดไขมันในผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
ถึงแม้ชื่อจะไม่เคยรู้คนอีกหลายๆคน แต่มันคือสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกรวมทั้งกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีร่างกายแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นหนึ่ง โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย อีกทั้งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย แล้วก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชำระล้างพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนถึงโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่รู้ตัว เมื่อจะต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถปกป้องแล้วก็ลดความเสี่ยงในการเป็น โรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่เอาชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" ร่างกายที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยถ้าเกิดสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการปรึกษาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ขอรับข้อเสนอแนะปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage รวมทั้ง Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแล้วก็เภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเวลา